เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568 สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จัดกิจกรรม “ไหว้พระ 5 วัดดัง จ.อยุธยา สานสัมพันธ์เสริมสิริมงคล” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และสิริมงคลแก่สมาชิกสมาคมและครอบครัว นำทีมโดย คุณพัชนีย์ พิชิตการณ์ นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี โอกาสนี้ ผศ.ดร.กันยา บาร์นท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพกับสมาชิกก่อนออกเดินทาง 
กิจกรรมเริ่มต้นการไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อโตพระประธานภายในวัดพนัญเชิง วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญวัดหนึ่งของอยุธยา โดยเฉพาะหลวงพ่อโตหรือเจ้าพ่อซำปอกงที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนต่างให้ความเคารพนับถือมาช้านาน ขนาดหน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร วัสดุ ปูนปั้นลงรักปิดทองหลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือพระโตของชาวอยุธยาองค์นี้ ถือกันว่าเป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้างกรุง พงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1868 หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปีและเมื่อกรุงศรีอยุธยาใกล้จะแตกปรากฏในคำให้การขาวกรุงเก่าว่าพระปฏิมากรใหญ่ที่วัดพนัญเชิงมีน้ำพระเนตรไหลเป็นที่อัศจรรย์ หลังจากนั้นได้เดินทางไปกราบศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดสุวรรณดาราราม ซึ่งวัดนี้มีภาพเขียนสีน้ำมันฝีมือของ มหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตร เป็นภาพ เรื่องพระราชพงศาวดารสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นภาพเขียนที่มีความเหมือนจริงมีใบหน้า ร่างกายกล้ามเนื้อและสัดส่วนต่างตามสรีระของบุคคลจริง อันมีอิทธิพลมาจากตะวันตกและได้นำมาประยุกต์ใช้ในจิตรกรรมไทย ซึ่งเชื่อว่าเป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต พระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมาแห่งราชวงค์จักรี ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้ต่อมาเป็นลำดับ มีการก่อสร้างพระวิหารเจดีย์ กำแพงแก้ว และปูชนียสถานอื่นๆภายในพระอารามแห่งนี้ นับได้ว่าวัดสุวรรณดาราเป็นพระอารามแห่งราชวงศ์จักรีโดยแท้ และเป็นวัดที่สวยงามมีสง่าน่าชมยิ่งนัก ต่อมาเข้ากราบสักการะพระมงคลบพิตรพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร และสูง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย และเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดหน้าพระเมรุ   เชื่อว่าวัดนี้เป็นเพียงวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลังจากนั้นปิดท้ายด้วยการกราบสักการะ “หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์” พระประธานในโบสถ์วัดตูม เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องปางมารวิชัย โดยมีลักษณะพิเศษ คือ บนพระเศียรขององค์พระสามารถเปิดออก และมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา เชื่อกันว่าเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคภัยให้หายได้ และผู้มีขอพรมักจะประสบผลสำเร็จโดยเฉพาะในด้านอาชีพหน้าที่การงาน
การจัดกิจกรรมไหว้พระในลักษณะนี้นอกจากจะสร้างสภาวะที่สงบและผ่อนคลายจิตใจ ได้เรียนรู้และเข้าใจในศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรมไทยอันดีงาม สร้างพลังบวกให้แก่ชีวิตและกระตุ้นให้มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตในทางที่ดีให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมแล้ว การเข้าร่วมในกิจกรรมนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก เกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน และช่วยให้คนในสมาคมรู้จักกันมากขึ้นและเกิดความผูกพันที่ดีต่อกัน ดังนั้นการจัดกิจกรรมนี้จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นำมาซึ่งความสุข ความสงบ และความเจริญรุ่งเรืองให้แก่สมาชิกสมาคมและครอบครัว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม นางภูมาดา  ผลนิโครธ นักประชาสัมพันธ์ ชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี 
หมายเลขโทรศัพท์ และ ID Line (Phone) : 0850853005 หรือที่ 0-3642-7485 ต่อ 10222 และที่ saraban@lawasri.tru.ac.th